...............วิคคาเป็น "ระบบความเชื่อ"ซึ่งในตัวของมันเองไม่ใช่วิคคา แต่ความรู้ที่ขึ้นมาประกอบเป็นวิคคานั้นมาจากความรู้หลายๆที่ด้วยกัน ซึ่งมีมากมายนับไม่ถ้วน ความรู้เหล่านั้นแม้ไม่ใช่ของวิคคาแต่หากเราเรียนรู้อย่างวิคคาแล้วมันก็เป็นความรุ้แห่งวิคคาได้ ความรู้วิคคาแบ่งออกเป็น 2 อย่างด้วยกันคือ "ปํญญาภายใน" กับ "ปัญญาภายนอก" เริ่มจากปัญญาภายนอกกันก่อน มันเป็เปลือกของ"ปัญญาภายใน" เป็นส่วนของศาสตร์หรือวิชาที่พวกเราศึกษากัน อาทิ ความหมาย ประวัติศาสตร์ เป็นต้น แบ่งเป็น 3 ระดับ เรียกว่า Degree Intiation หรือ DI3 และเป็นสิ่งที่จะนำพาคุณไปสู่เบื้องลึกของวิคคา นั้นคือ "ป็ญญาภายใน" นั้นเอง ป้ญญาภายในเป็นแก่นของป็ญญาภายนอก ไม่มีระดับเพราะแยกไม่ได้ ปัญญาภายในเกิดจากการสั่งสมและตกผลึกของปัญญาภายนอก ปัญญาภายในไม่ได้อยู่ในสมองเราแต่อยู่ในจิตวิญญาณของเรา ดังนั้นเราต้องศึกษามันให้ตกผลึก คือลึกซึ้งแตกฉานเลยทีเดียว แล้วทำอย่างไรละ? เดี่ยวมาว่ากันต่อไป
...............คำว่าปัญญานี้หมายถึง"ความรู้"(อันวิคคารู้แจ้งแล้ว) ซึ่งปัญาภายนอกนั้นคือ ความรู้ทางโลก และปัญญาภายใน คือ ความรู้ทางจิตวิญญาณ ..........ศึกษาเรียนรู้วิคคาอย่างไรให้"ตกผลึก" เริ่มแรกคือ "ตัวเอง" ต้องมีความพร้อมทั้งทางกายและใจ มีความใฝ่ศึกษาเรียนรู้ในวิคคาอย่างแท้จริงจึงจักสำเร็จได้ เมื่อกายและใจพร้อมก็เริ่มเลย โดยเริ่มจากการศึกษาเรียนรู้ด้าน"ปัญญาภายนอก" ก่อนโดยการเจาะลึกเนื้อหาข้อหนึ่งๆนั้นให้ละเอียด โดยใช้การตั้งคำถามกับหัวข้อนั้นๆ ว่า คืออะไรอย่างไร แบบไหน ซำแล้วซำอีกๆๆๆ จนเราไม่สามารถตั้งคำถามอะไรเกี่ยวกับปัญหาข้อนี้ได้อีกแล้ว นั้นแลคือการ"ตกผลึก" เป็นการตกผลึกของความรู้ ..........ผลที่ได้จากการตกผลึกคือ "ปัญญาภายใน" มันจะมาในรูปแบที่เรียกว่า "ความเงียบ" เพราะมันลึกเกินกว่าที่สมองจะรู้ถึงได้ นี่แหละคือวิธีการแต่ถ้าจะให้เข้าถึงปรัชญาก็ควรใช้วิธี "การทำสมาธิ"เอา วิธีนี้ได้ผลดีที่สุดที่จะกลั่นกรองเอาความรู้ขั้นสูงมาได้ เพราะสุดท้ายก็ต้องเรียนรู้โดยการทำสมาธิทั้งนั้นแหละ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น